เดือนส.ค. ของแพงต่อ คาด หมู-กุ้ง-โค-ข้าวหอม-มัน ราคาพุ่ง

นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. เผยแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรเดือน ส.ค.65 มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นอีก เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ การส่งเสริมการท่องเที่ยวและบริการ เทศกาลวันแม่แห่งชาติ ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวและร้านอาหารกลับมาคึกคัก และมีความต้องการสินค้าไปบริโภคเพิ่ม ทำให้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ มันสำปะหลัง สุกร กุ้งขาวแวนนาไม และโคเนื้อ มีราคาปรับขึ้นได้อีก ส่วนสินค้าที่จะลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ น้ำตาลทรายดิบ ยางพาราแผ่นดิบ และปาล์มน้ำมัน

ทั้งนี้ ราคาสุกรหน้าฟาร์ม อยู่ที่ 103.14-104.39 บาทต่อ กก. เพิ่มขึ้น 0.14-1.35% และโคเนื้อราคา 100.20-100.80 บาทต่อ กก. เพิ่มขึ้น 0.05-0.65% เนื่องจากมีความต้องการบริโภคเพิ่ม หลังผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด ทำให้ภาคการท่องเที่ยวและบริการต่าง ๆ อาทิ ร้านอาหาร สถานบันเทิง โรงเรียนและสถานศึกษา กลับมาเปิดได้ตามปกติ ประกอบกับต้นทุนการเลี้ยงสูงขึ้นจากวัตถุดิบอาหารสัตว์และค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาเนื้อสุกรยังมีทิศทางปรับเพิ่ม  

ขณะที่กุ้งขาวแวนนาไมขนาด 70 ตัวต่อ กก. คาดอยู่ที่ 151.28-152.13 บาทต่อกก. เพิ่มขึ้น 0.85-1.42% เนื่องจากฝนตกต่อเนื่อง ทำให้กุ้งมีโอกาสเกิดโรคเพิ่ม อาทิ โรคตัวแดงดวงขาว โรคหัวเหลือง ทำให้ผลผลิตลดลง ขณะที่การบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดยาว ส่วนข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ตันละ 13,885-13,991 บาท เพิ่มขึ้น 0.90-1.67% เพราะสต๊อกของผู้ประกอบการข้าวถุงลดลง ขณะที่มันสำปะหลัง 2.74-2.84 บาท/กกคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. เพิ่มขึ้น 1.11-4.80% เนื่องจากความต้องการใช้มันสำปะหลังทั้งในและต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประกอบกับเข้าสู่ช่วงปลายฤดูกาลเก็บเกี่ยว ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

นายสมเกียรติกล่าวว่า สินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคา 8,843-8,919 บาทต่อตัน ลดลง 1.63-2.46% เนื่องจากข้าวนาปรังมีปริมาณมากกว่าปีก่อน ประกอบกับการแข่งขันราคาข้าวโลกกลับมารุนแรง ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว  8,834-9,079 บาทต่อตัน ลดลง 0.98-3.65% เนื่องจากเวียดนามมีนโยบายการส่งออกข้าวเหนียวสู่ตลาดโลกเพิ่มขึ้น ปาล์มน้ำมันราคา 6.74-6.99 บาทต่อ กก. ลดลง 1.13-4.66% ตามราคาน้ำมันดิบที่ลดลง จากการคลี่คลายวิกฤติการส่งออกพลังงานในรัสเซีย ส่งผลต่อความต้องการปาล์มไปผลิตไบโอดีเซลลดลง

สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาอยู่ที่ 10.11-10.39 บาทต่อ กก. ลดลง 0.17-2.89% เนื่องจากมีข้อตกลงส่งออกธัญพืชระหว่างรัสเซียและยูเครน น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์กราคาอยู่ที่ 17.73-17.79  เซนต์ต่อปอนด์ หรือ 14.35-14.40 บาทต่อกก. ลดลงจากเดือนก่อน  0.55-0.88% เนื่องจากน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ส่งผลให้โรงงานน้ำตาลเพิ่มสัดส่วนการนำอ้อยไปผลิตน้ำตาล ยางพาราแผ่นดิบราคาอยู่ที่ 56.04-56.23 บาท ลดลง 0.53-0.87% เนื่องจากราคาซื้อขายยางพาราล่วงหน้าโตเกียวลดลง หลังมีการเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา